top of page

Search Results

180 results found with an empty search

  • กว่าจะมาเป็น "Low Chair 30" ที่นั่งสบาย

    ความใส่ใจที่ซ่อนอยู่ในความสูงจากพื้น 30cm. วันนี้ขอเลือกที่นี่เป็นห้องทำงานส่วนตัวของฉัน วิวสวยๆ ที่ถูกใจ กลายเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวของฉันไปแล้ว แค่มีเก้าอี้ Low Chair 30 ที่พับเก็บได้สะดวก และวิวสวยๆสักที่ ก็เหมือนได้สร้างห้องนั่งเล่นส่วนตัวขึ้นมาใหม่ได้ทุกที่ทุกเวลา การได้นั่งบนเก้าอี้ Low Chair 30 ที่ออกแบบมาให้ที่นั่งสูงจากพื้นประมาณ 30 เซนติเมตร ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งโซฟาสบายๆ มองวิวสวยๆ ช่วยให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี การได้สร้างพื้นที่ส่วนตัวในธรรมชาติ และปล่อยใจไปกับธรรมชาติ เป็นช่วงเวลาที่พิเศษมาก ความมหัศจรรย์ของเก้าอี้พับได้รุ่น Low Chair 30 เก้าอี้พับเก็บได้ที่ผสมผสานความสะดวกในการพกพาเข้ากับความสบายในการนั่งได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นตำนานที่เหล่าผู้ผลิตของ Snow Peak ยังคงกล่าวขานถึง เก้าอี้นั่งแบบพับได้รุ่น Low Chair 30 ของ Snow Peak นั้นเป็นผลงานการออกแบบที่น่าทึ่งมาก เพราะมันสามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องของความสะดวกในการพกพา และความสบายในการนั่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เก้าอี้พับได้ทั่วไปมักจะทำได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น โดยปกติแล้ว การออกแบบเก้าอี้พับได้มักจะเน้นไปที่การพับเก็บให้มีขนาดกะทัดรัดเพื่อความสะดวกในการพกพา แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความสบายในการนั่งที่ลดลง หรือในทางกลับกัน ถ้าเน้นเรื่องความสบายในการนั่งมากเกินไป ก็จะทำให้เก้าอี้มีขนาดใหญ่ และพกพายาก แต่สำหรับ Low Chair 30 ทีมงานของ Snow Peak ได้แก้ปัญหานี้ได้อย่างน่าทึ่ง พวกเขาเริ่มต้นจากการออกแบบให้เก้าอี้มีความสบายในการนั่งมากที่สุดก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ปรับโครงสร้างให้สามารถพับเก็บได้อย่างง่ายดาย โดยอาศัยการคำนวณที่ละเอียดและซับซ้อน ทำให้ทุกส่วนของเก้าอี้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว แม้แต่การเปลี่ยนแปลงเพียง 1 มิลลิเมตร ก็อาจส่งผลให้โครงสร้างทั้งหมดเสียหายได้ ความลับของการออกแบบมุมที่คำนวณมาอย่างดี และความสบายที่เหนือชั้น จุดเด่นของเก้าอี้ Low Chair 30 คือ แม้จะเป็นแบบพับเก็บได้ แต่ก็ออกแบบมาให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างสุดขีดเมื่อนั่ง โดยเริ่มจากการตั้งค่าความสูงที่ลงตัว และการออกแบบมุมของเบาะที่รองรับตั้งแต่หลังเข่าจนถึงต้นคอที่ละเอียดอ่อน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย มุมที่เบาะสัมผัสกับหลังเข่า มุมที่รองรับส่วนเอว และมุมที่สามารถพิงหลังได้อย่างสบาย ล้วนถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับสรีระของมนุษย์ นอกจากนี้ ยังออกแบบมาให้สามารถโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อทำงานได้อย่างสะดวก เช่น การเติมฟืนเข้าเตาไฟ ก็สามารถทำได้ในท่าทางที่เป็นธรรมชาติ เลือกใช้วัสดุที่เน้นความผ่อนคลาย และดีไซน์ที่เข้ากับทุกห้อง เก้าอี้สนาม Low Chair 30 เน้นการเลือกใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และมีดีไซน์ที่เข้ากับการตกแต่งภายในบ้านได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะที่พักแขนของเก้าอี้ที่ทำจากไม้ไผ่กด ซึ่งในสมัยที่พัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ เก้าอี้สำหรับกลางแจ้งส่วนใหญ่จะใช้ที่พักแขนเป็นอะลูมิเนียม แต่ทีมพัฒนาได้ตระหนักว่า การใช้วัสดุธรรมชาติที่สัมผัสกับมือขณะนั่งจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น นี่คือแนวคิดที่โดดเด่นของ Snow Peak ที่ให้ความสำคัญกับความผ่อนคลาย และการมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อความสบายมาโดยตลอด ด้วยความสบาย และดีไซน์ที่เข้ากับทุกสภาพแวดล้อม ทำให้เก้าอี้รุ่นนี้ได้รับความนิยมจากผู้ที่ใช้งานทั้งใน และนอกบ้าน ประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกถึงธรรมชาติใกล้ตัวจากการนั่งแบบ Low Style เก้าอี้มีระดับความสูงจากพื้นเพียง 30 เซนติเมตร ทำให้สามารถนั่งได้อย่างสบาย เหมือนนั่งโซฟา โดยที่หลังส่วนล่างได้รับการรองรับอย่างดี และสามารถเหยียดขาได้เต็มที่ เมื่อมองลงมาจากมุมต่ำ จะทำให้รู้สึกว่าห้องกว้างขึ้น และเมื่ออยู่นอกบ้าน จะรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติราวกับกำลังชมดอกไม้ นอกจากนี้ โต๊ะ My Table ยังออกแบบมาให้เข้ากันกับเก้าอี้ Low Chair 30 โดยสามารถกางออกได้อย่างง่ายดาย เพื่อใช้เป็นโต๊ะข้างตัว เมื่อนำมาใช้คู่กันกับเก้าอี้ที่สามารถพับเก็บได้ จะทำให้รู้สึกเหมือนกำลังปิกนิก และยังสามารถใช้โต๊ะตัวนี้เพียงอย่างเดียวในสถานที่ตั้งแคมป์ขนาดเล็กได้อีกด้วย โต๊ะตัวนี้ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการจัดสรรพื้นที่แบบ Low ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแคมป์ หรือการนำไปไว้ในรถ เพื่อสร้างมุมพักผ่อนส่วนตัวในสถานที่ที่คุณชื่นชอบ Low Beach Chair Khaki Low Beach Chair Brown CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • สิ่งที่อยากจะสื่อผ่าน LOCAL LIFE TOURISM

    สัมผัสชีวิตประจำวันบนเกาะและสัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์ สำนักงานใหญ่ของ Snow Peak Resort Saki Toshimi / ซากิ โตชิมิ "ลมมันเย็นดีจัง" "อากาศมันหอมดีจัง" "ได้ยินเสียงนกร้อง" "กลิ่นทะเลมาแล้ว" ความรู้สึกที่ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แบบนี้ มันกระทบใจเราลึกๆ แบบไม่คาดคิด คุณรู้สึกแบบนี้บ้างไหมความรู้สึกที่เรามักจะลืมไปในชีวิตในเมือง และเสน่ห์ที่มีเฉพาะในแต่ละพื้นที่ ฉันอยากจะส่งต่อความรู้สึกนี้ให้กับคนอื่นๆ ผ่าน Snow Peak ด้วยความตั้งใจนี้ ฉันจึงเข้าร่วมโครงการ LOCAL TOURISM "ชีวิตบนเกาะ" ฉันแน่ใจว่าต้องมีคนเคยคิด หรือจินตนาการถึง ที่จะใช้ชีวิตแบบนั้น ถ้าคิดดูดีๆ เราก็อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเกาะอยู่แล้ว... ครั้งนี้การท่องเที่ยว LOCAL LIFE TOURISM จะพาไปที่เกาะห่างไกลในจังหวัดโอคายามะ คือ "อินูชิมะ" ซึ่งจะพูดถึงเรื่องการใช้ชีวิตบนเกาะที่ห่าง ห่างไกล ครั้งหนึ่งอินุจิมะเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะอุตสาหกรรมการ ทำเหมืองและการผลิตทองแดง แต่ภายหลังก็เผชิญกับการเสื่อมถอยและประวัติศาสตร์ที่มีด้านมืด ที่ตั้งของโรงหลอมในปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Inujima Seirensho และภายใต้ปรัชญา "การใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่และสร้างสิ่งที่ไม่มีอยู่" ปัจจุบัน Setouchi Triennale จัดขึ้นที่นี่ ทำให้เกาะแห่งนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ "เกาะแห่ง ศิลปะร่วมสมัย” มีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ควรลืมว่าที่เบื้องหลังของเกาะนี้ยังมีมรดกทางประวัติศาสตร์ที่เราควรรับรู้และไม่ควรมองข้าม ประชากรของเกาะอินุจิมะในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 30 คน อีกหนึ่งจุดดึงดูดใจคือชาวเกาะที่กระตือรือร้นและมีจิตใจอบอุ่น ซึ่งมีอายุเฉลี่ยมากกว่า 70 ปี เมื่อเดินเท้าลงบนเกาะในทันที "โอ้ รู้สึกดีจัง" เป็นความรู้สึกที่เหมือนกับว่าร่างกายและจิตใจได้รับการชำระล้างด้วยความอบอุ่น ฉันสัมผัสได้ถึงพลังเกาะแห่งนี้ สถานที่หลักของการท่องเที่ยว LOCAL LIFE TOURISM คือ "สวนพฤกษศาสตร์ชีวิตบนเกาะอินูชิมะ" ที่นี่มีดอกไม้หลากหลายชนิดบานสะพรั่ง และเสียงนกหลากหลายชนิดได้ยินอยู่ตลอดเวลา ท่ามกลางบรรยากาศนั้น มีเต็นท์ของ Snow Peak อย่าง Amenity Dome และ Land Breeze ตั้งอยู่ด้วย ซึ่งดูเหมือนงานศิลปะเลยทีเดียว เสียงไก่ขัน แสงแดดที่ส่องเข้ามาผ่านเต็นท์ทำให้ตื่นขึ้นเองโดยธรรมชาติ เมื่อออกจากเต็นท์ไป สิ่งแรกที่เห็นคือลักษณะของทิวทัศน์ที่สวยงามมาก นี่คือวิวที่สามารถมองเห็นได้เฉพาะที่เกาะอินูชิมะแห่งนี้เท่านั้น และเป็นความรู้สึกที่ไม่เหมือนที่ไหน ทำให้ฉันรู้สึกอยากแบ่งปันประสบการณ์นี้กับลูกค้าโดยเร็วที่สุด "ใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ และสร้างสิ่งที่ขาดหายไป" เราจะนำสิ่งที่เกาะอินูชิมะมีมา และใช้พลังของ Snow Peak เพื่อทำให้มันดียิ่งขึ้น แล้วมอบให้กับลูกค้า. ในโปรแกรมของทัวร์ครั้งนี้ ประกอบด้วยการกางเต็นท์ร่วมกับลูกค้า เราจะพาไปเดินสำรวจเกาะ รวมถึงพิพิธภัณฑ์โรงงานอินูชิมะ และเมื่อถึงเวลาอาหารเย็น จะได้ทานอาหารจากเชฟ Allan Haunstrup เชฟที่มีส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานของวัฒนธรรมอาหารนอร์ดิก ซึ่งทำให้ร้านอาหาร "noma" ในเดนมาร์กได้รับการยกย่องว่าเป็น "ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก" ถึง 4 ครั้ง อาหารจะทำจากผักและผลไม้ที่เก็บได้ในจังหวัดโอคายามะ และยังใช้ดอกไม้และสมุนไพรที่เก็บจากบริเวณงานในวันนั้นมาเป็นส่วนผสม นี่คือรสชาติที่สามารถทานได้เฉพาะในวันนั้นและที่นั่นเท่านั้น เรื่องรสชาติ... คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสุดยอดแค่ไหน. การสัมผัสรสชาติของเกาะผ่านอาหาร การสัมผัสรสชาติของเกาะผ่านผู้คน การสัมผัสรสชาติของเกาะผ่านธรรมชาติ นี่คือโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้ "ใช้ชีวิตบนอินูชิมะ" และ "การใช้ชีวิตบนผืนแผ่นดินนี้"จริงๆ การมาเป็นแค่ผู้ท่องเที่ยวแล้วแค่พักอยู่เฉยๆ นั้นมันน่าเบื่อ ถ้ามาถึงแล้ว เราก็อยากให้คุณได้สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของเกาะให้เต็มที่ เพื่อให้ได้ประสบการณ์จริง ไม่ใช่แค่ไปเที่ยวตามจุดต่างๆ ที่กำหนดไว้ แต่คือการได้สัมผัสชีวิตประจำวันในเกาะนั้น การมาเยือนที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและไม่ใช่แค่ในฐานะ "ลูกค้า" แต่คือการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งกับอาหารและผู้คนในพื้นที่ มันคือความสุขที่แท้จริงของมนุษย์. หลังจากจบงาน โบกมืออำลาลูกค้ากำลังจะขึ้นเรือกลับ และพนักงานกำลังเก็บของ ขณะนั้นลมแรงและทะเลคลื่นแรง เรือที่มีกำหนดออกในวันนั้นก็ประกาศว่าไม่สามารถออกได้ และไม่รู้ว่าเรือจะออกเมื่อไหร่ เมื่อทะเลมีคลื่นแรง ก็อาจจะไม่มีเรือออกได้เลย นี่คือประสบการณ์การไปเกาะห่างไกล แม้จะโล่งใจที่เรือสำหรับลูกค้าออกตามกำหนด แต่ในระหว่างรอเรือ เราจึงเดินเล่นรอบเกาะขณะรอเรือและได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณยายที่อาศัยอยู่บนเกาะ "พวกเราที่อยู่บนเกาะนี้มักจะมารวมตัวกันแบบนี้นะ ทุกคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน!" การจะไปที่นั่นต้องนั่งเรือข้ามทะเล ซึ่งไม่สามารถไปได้ทุกเมื่อที่ต้องการ การไปยังเกาะห่างไกลก็ไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ง่ายๆ แม้ว่าเกาะห่างไกลจะเรียกว่าเป็น "เกาะที่โดดเดี่ยว" อย่างแท้จริง แต่ระยะห่างระหว่างผู้คนกับธรรมชาติกลับใกล้กันอย่างไม่น่าเชื่อ ในปัจจุบันข้อมูลเกือบทั้งหมดสามารถหาได้ทางอินเทอร์เน็ต สินค้าสามารถส่งถึงมือลูกค้าได้ในวันถัดไปเพียงคลิกเดียว โซเชียลมีเดียช่วยให้เรารู้ว่าใครทำอะไรอยู่ที่ไหน และเราสามารถพูดคุยกับคนที่เราชอบได้ตลอดเวลา กลางวันหรือกลางคืน ทุกวันนี้สิ่งต่างๆ ดำเนินไปแบบไม่มีการเคลื่อนย้าย ผู้คนออกไปข้างนอกน้อยลง และมีการสัมผัสกับธรรมชาติน้อยลงหรือไม่ มันคงน่าเสียดายถ้าเราพลาดโอกาสที่จะได้สัมผัสกับสิ่งดีๆ จากธรรมชาติ ฉันอยากจะแนะนำให้คุณออกไปและเพลิดเพลินกับประสบการณ์นี้ เราต้องการให้ผู้คนสัมผัสถึงเสน่ห์ของธรรมชาติและพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของดินแดนแห่งนี้ วัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือการใช้ Snow Peak เป็นประตูสู่การเยี่ยมชมดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ และเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนในพื้นที่นั้น ฉันยังคงเก็บความประทับใจที่ได้รับจากธรรมชาติ อาหาร และการพบปะผู้คนบนเกาะอินูชิมะเอาไว้ และผ่านการท่องเที่ยว LOCAL TOURISM นี้ ฉันได้มีโอกาสกลับมามองและเข้าใจความรู้สึกบริสุทธิ์ของตัวเองและความเป็นมนุษย์มากขึ้น CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • ปลูกฝังจิตใจที่รักธรรมชาติ ผ่านการพาลูกไปตั้งแคมป์

    Grow in Nature การตั้งเต็นท์ ทำอาหาร และสัมผัสพืช และสัตว์จริงๆ ที่ไม่เพียงแค่เห็นจากในหนังสือ ทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มากมาย และช่วยพัฒนาจิตใจให้เติบโตอย่างสมบูรณ์แบบ ลองเริ่มต้น 'การเลี้ยงลูกด้วยการพาไปตั้งแคมป์' ในช่วงฤดูร้อนนี้กันไหม? เต็นท์ & ถุงนอน มาสร้างบ้านสำหรับตั้งแคมป์เป็นของตัวเองกันเถอะ! เป็นบ้านเล็กๆ ที่เหมือนกับฐานลับสุดยอด ที่เราจะได้ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นมา และสัมผัสความตื่นเต้นและความภูมิใจที่หาไม่ได้จากเกมใดๆ Entry Pack TT Set Entry Pack TS Entry 2 Room Elfield Amenity Dome M Land Breeze 4 Landlock Entry Pack SS SS single Separate Offton Wide 700 เครื่องมือทำอาหาร แม้จะเป็นเมนูที่ทานกันเป็นประจำที่บ้าน แต่พามาทำกินตอนไปตั้งแคมป์แล้ว กลับอร่อยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ! ยิ่งถ้าได้ทำอาหารร่วมกันกับลูกๆ ด้วยแล้ว ก็จะยิ่งสนุกสนานและสร้างความประทับใจให้กับทุกคน เพราะเราให้ความสำคัญกับช่วงเวลาของการทานอาหาร Snow Peak จึงคัดสรรอุปกรณ์ทำครัวมาเป็นอย่างดี Chopping Board Set L Tramegino Field Cooker Pro Classic kettle Tableware Set L Family Party Plate Titanium My plate Fork & Spoon Set การเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ ในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่แห่งนี้ มีสิ่งใหม่ๆให้ค้นพบได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นพืช พรรณไม้ ดอกไม้ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล หรือแมลงที่เราเคยเห็นแต่ในหนังสือ ถ้าเราปูผ้าปิกนิกนั่งลงบนพื้นดิน ท้องฟ้าก็จะกลายเป็นห้องเรียนของเราเอง เรามาเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติกันเยอะๆนะ FD Low Chair FD Chair Wide FD KID'S Chair FD Bench One action table One action table One action table Entry IGT bamboo Long Bamboo Table Bamboo เดินเล่นยามค่ำคืน เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวก็จะค่อยๆ มืดลง และดวงจันทร์ก็จะโผล่ขึ้นมา ลองถือโคมไฟออกไปสำรวจพื้นที่ตั้งแคมป์ที่ไม่มีไฟถนนกันไหม? คืนนี้ธรรมชาติจะสอนเราให้รู้จักความมืดของป่าและความสว่างของแสงจันทร์ Mini Hozuki White Mini Hozuki Green Mini Hozuki Brown Hozuki Light White Hozuki Light Green Hozuki Light Brown อุปกรณ์ป้องกันแมลง เสื้อผ้าป้องกันแมลงที่มีส่วนผสมของสารกันแมลงที่อ่อนโยนทั้งต่อร่างกาย และธรรมชาติ เพียงแค่สวมใส่ก็สามารถป้องกันแมลงได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็ก ก็สามารถสนุกกับการตั้งแคมป์ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแมลง เรามีเสื้อผ้าหลายแบบให้เลือก เช่น เสื้อฮู้ดหรือเสื้อแขนยาวแบบสวมทับ และกางเกงเลกกิ้ง Printed Insect Insect Shield Parka Insect Shield Parka Kids Print Insect Shield Parka Shield Leggings Print Insect Shield Insect Shield Hoodie Print Insect Shield Print Insect Shield Hoodie Long Sleeve T-shirt Long Tights CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • ท่องเที่ยวสไตล์ท้องถิ่นที่เกาะซาโดะ : สัมผัสธรรมชาติอันงดงามเกินคำบรรยาย

    LOCAL WEAR TOURISM in SADO [การท่องเที่ยวที่เน้นการแต่งกายแบบท้องถิ่น] Snow Peak LANDSTATION HARAJUKU Store Manager Asami Yamashita / อาสามิ ยามาชิตะ เกาะซาโดะ จังหวัดนีงาตะ เป็นเกาะที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานของการค้าขาย ทำให้เกิดวัฒนธรรมและอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของที่นี่ ฉันได้มีโอกาสไปร่วมเดินทาง 1 คืน 2 วัน ที่เกาะซาโดะ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การทำงาน และการสวมใส่ชุดทำงานแบบดั้งเดิมของชาวเกาะ วันที่หนึ่ง เราได้กางเต็นท์ข้างเวทีแสดงโนห์ และในคืนนั้น ได้ลิ้มลองอาหารที่ปรุงโดยเชฟระดับโลกอย่างเชฟอารัน ซึ่งวัตถุดิบหลักคือ ผักสดๆ จากเกาะซาโดะ ผักเหล่านั้นสดชื่นมากจนทานเปล่าๆ ก็อร่อยแล้ว ดังนั้นเชฟจึงเน้นการปรุงรสให้น้อยที่สุดเพื่อคงรสชาติความอร่อยตามธรรมชาติของวัตถุดิบ โดยเฉพาะมะเขือเทศเชอรี่ที่ทำให้ฉันประทับใจเป็นพิเศษ อาหารจานนั้นดูเรียบง่ายมาก เพียงแค่เอาไปย่างไฟเบาๆ แล้วราดด้วยน้ำมันมะกอก เกลือ และโรสแมรี่ แต่รสชาติกลับกลมกล่อมอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นเป็นเพราะเชฟอารันเข้าใจถึงคุณค่าของวัตถุดิบเป็นอย่างดี การปรุงอาหารแบบเรียบง่ายนี้ ทำให้กลิ่นหอม รสชาติ และความหวานของวัตถุดิบโดดเด่นออกมาอย่างชัดเจน และสัมผัสได้ถึงความอร่อยที่ลงตัวอย่างแท้จริง มื้อค่ำในครั้งนี้ทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงความขอบคุณและความรักที่เชฟอารันมีต่อธรรมชาติ หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารมื้อค่ำแล้ว เราก็ได้ชมการแสดงศิลปะการตีกลองญี่ปุ่นโบราณอย่าง ศิลปะการตีกลองญี่ปุ่นโบราณ ใต้แสงดาวเต็มฟ้า พร้อมกับนั่งชมเปลวไฟที่ลุกไหม้เพื่อผ่อนคลาย ก่อนจะเข้านอน ในเช้าวันต่อมา หรือวันที่สอง เราได้มีโอกาสลงมือทำกิจกรรมหลักของทริปนี้ นั่นคือ การปลูกข้าวในนาขั้นบันไดที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม ปกติแล้ว นาขั้นบันไดจะคิดเป็นเพียง 8% ของพื้นที่นาข้าวทั้งหมดในญี่ปุ่น และมีมากกว่า 40% ที่ถูกทิ้งร้างไปแล้ว นาขั้นบันไดนั้นมีประโยชน์มากมาย ไม่เพียงแต่จะให้ข้าวที่มีคุณภาพดีและอร่อย ยังช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และป้องกันภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม และดินสไลด์ ได้อีกด้วย การปลูกข้าวเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางท้องฟ้าสดใส ร่วมกับเกษตรกรท้องถิ่นที่ดูแลนาผืนนี้ ความรู้สึกของดินเย็นๆ ที่สัมผัสกับเท้านั้น สดชื่นและรู้สึกดีมากๆ รากของต้นกล้าที่ได้รับมานั้นพันกันแน่นและแข็งแรงมาก เมื่อจับต้นกล้า 2-3 ต้นและปลูกลงในดิน ต้องระวังไม่ให้ปลูกลึกเกินไป หรือตื้นเกินไป พอเริ่มมีทักษะในการปลูก ทุกคนที่เคยฮือฮาและพูดคุยเสียงดัง ก็เริ่มเงียบลงไป ทีนี้การปลูกข้าวกลายเป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเอง และธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ดวงอาทิตย์ที่สดใส ข้าวทุ่งที่เปล่งประกายระยิบระยับ เส้นขอบฟ้าที่ตรงเป๊ะ เสียงนกจิ๊บๆ เสียงกบร้องลั่น ลมอ่อนๆ ที่พัดมา และน้ำในนาอุ่นๆ พร้อมกับโคลนเย็นๆ และกลิ่นหญ้า พวกเรารู้สึกได้ถึงการมีชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างเต็มที่ จังหวัดซาโดะได้โอบล้อมเราให้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ตอนแรกเตรียมถุงมือ และรองเท้าให้ลูกค้า แต่ทุกคนกลับถอดรองเท้าเดินในโคลนโดยไม่แคร์เลย พวกเขาไม่สนใจความสกปรก และเต็มไปด้วยรอยยิ้มขณะสัมผัสโคลน ทำให้ฉันคิดขึ้นมาในใจว่า นี่แหละคือเสน่ห์ของการเดินทางครั้งนี้ นี่แหละคือ 'ธรรมชาติที่หรูหราที่สุด' ซาโดะคือเกาะที่ยังคงรักษาการทำเกษตรแบบดั้งเดิมไว้ ที่นี่ผู้คนเกิด โต ทำงาน เลี้ยงลูก และแก่ตัวไป การใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายตามธรรมชาติที่มีความงามแบบธรรมชาติแท้ๆ ได้แผ่ความสงบและความสวยงามออกมาในทุกๆ แง่มุมของชีวิต การท่องเที่ยวแบบ Local Wear ของ Snow Peak จะพาคุณไปพบกับเสน่ห์ของท้องถิ่นต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารพื้นเมือง การผลิตสินค้าที่สืบทอดกันมา และวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นนั้นๆ การได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามนับเป็นสิ่งที่หรูหราที่สุด การเดินทางของ Snow Peak ยังคงดำเนินต่อไป โปรดติดตามชมกันนะ CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • การตั้งแคมป์ทำให้เราได้เรียนรู้ธรรมชาติอย่างแท้จริง

    มุมมองของนักแคมป์ในการพัฒนาชุมชน ฉบับที่ 2 การตั้งแคมป์ทำให้เราได้เรียนรู้ธรรมชาติอย่างแท้จริง Snow Peak Regional Creation Consulting Ryuichi Wakamatsu / ริวอิจิ วากามัตสึ "ที่นี่ไม่มีอะไรเลย นอกจากธรรมชาติ" นี่คือประโยคหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยมาก เมื่อไปเยือนชุมชนท้องถิ่นในญี่ปุ่น แน่นอนว่าเราคิดว่า "ที่จริงแล้ว สิ่งที่ผู้คนต้องการในตอนนี้อาจจะเป็นธรรมชาติเหล่านี้ก็ได้" ด้วยหน้าที่การงานที่ทำให้เราได้เดินทางไปทั่วญี่ปุ่น เราสามารถพูดได้เลยว่า "ไม่มีที่ไหนในชนบทของญี่ปุ่นที่ไม่มีธรรมชาติที่สวยงาม" แล้วเราจะนำธรรมชาติเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร? นั่นคือสิ่งที่เราทำงานร่วมกันเพื่อหาคำตอบ คุณค่าที่คนในยุคปัจจุบันกำลังมองข้าม ในยุคที่เราใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีมากมาย สิ่งที่หลายคนรู้สึกว่าขาดหายไปมากที่สุด ไม่ใช่แค่ความรู้สึกชื่นชมความงามของธรรมชาติ แต่เป็นการที่เราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะสังเกตเห็น การเปลี่ยนแปลง ของความงามในธรรมชาตินั้นๆอย่างละเอียด เช่น การเปลี่ยนแปลงของสีท้องฟ้าในยามเช้า เสียงลมที่พัดเบาๆ หรือแสงแดดที่ส่องกระทบกับสิ่งต่างๆ รอบตัว ความงามของธรรมชาติไม่ได้ปรากฏให้เห็นเพียงชั่วขณะ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลองจินตนาการถึงช่วงเวลา 15 นาทีที่เราใช้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ เช่น ท้องฟ้าที่ค่อยๆ สว่างขึ้น สีของทะเลที่เปลี่ยนไปตามแสงแดด หรือพืชพรรณที่เริ่มผลิใบเมื่อได้รับแสงแดด คุณมีเวลา 15 นาทีแบบนี้ในชีวิตประจำวันบ้างไหม? การไปตั้งแคมป์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยให้เรามีเวลาได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และเข้าใจถึงความงามที่แท้จริงของธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น ทิวทัศน์ที่เราจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อไปตั้งแคมป์ ถ้าคุณไปเที่ยวเมืองโคจิ จังหวัดโคจิ แบบทั่วไป คุณก็จะได้เห็นแม่น้ำนิโยโดะแค่ในช่วงเวลาที่คุณไปเท่านั้น คุณอาจจะไม่ได้เห็นแม่น้ำนิโยโดะยามเช้าที่ปกคลุมไปด้วยหมอก หรือในยามค่ำคืนที่สะท้อนแสงจันทร์ มันเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก การตั้งแคมป์คือการได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ซึ่งหมายความว่าการสร้างพื้นที่สำหรับตั้งแคมป์ก็เหมือนกับการสร้างโอกาสให้ผู้คนได้สัมผัสกับความงามตามธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันในท้องถิ่นนั้นๆ ถ้าสมมติว่าเมืองของคุณมีแต่ธรรมชาติ (ซึ่งจริงๆ แล้วก็ยากที่จะเป็นเช่นนั้น) คุณอยากจะให้ผู้คนได้สัมผัสกับความงามที่แท้จริงของธรรมชาตินั้นมากขึ้นไหม? ในฐานะคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ฉันอยากจะแบ่งปันความงามของธรรมชาติที่ฉันได้สัมผัสให้กับคนอื่นๆ คำว่า "ท่องเที่ยว" ในภาษาญี่ปุ่นเขียนว่า "観光" ซึ่งแปลว่า "ดูแสง" มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเราได้ไปเยือนสถานที่หนึ่งเพื่อดูแสงสว่างที่แท้จริงของสถานที่นั้น เพื่อดูธรรมชาติและเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปตามแสง ถูกดึงดูดด้วยธรรมชาติของเมืองโคจิ Snow Peak ได้เปิดสาขาใหม่ชื่อ " Kawano Eki Ochi " ซึ่งอยู่ห่างจาก " Snow Peak Ochi Niyodogawa Camp Field " เดิมเพียง 5 นาที โดยสาขานี้เป็นสาขาของ Snow Peak แห่งแรกที่เน้นเรื่อง "เวลา" นอกจากจำหน่ายสินค้าแล้ว ยังมีกิจกรรมพายเรือคายัค และที่พักแบบ "จูบาโกะ" ซึ่งเป็นบ้านเคลื่อนที่ขนาดเล็กให้บริการด้วย โดยเริ่มเปิดจองที่พักได้ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2019 จูบาโกะ นั้นมีความพิเศษตรงที่เป็นยานพาหนะ จึงโยกเยื้องได้เมื่อมีลมแรง และสามารถได้ยินเสียงนกร้องรอบๆ ทำให้รู้สึกถึงความผ่อนคลายและความตื่นเต้นในการพักกลางแจ้งในเวลาเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากการพักในโรงแรมทั่วไป Snow Peak ต้องการให้ที่พักแบบนี้เป็นตัวแทนของแนวคิดที่ว่า การได้ใกล้ชิดธรรมชาติจะช่วยให้มนุษย์เรากลับมาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และอีกที่หนึ่งที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้คือ "Snow Peak Tosa Shimizu Camp Field" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สอนให้เราเห็นถึงความสวยงามของการเปลี่ยนแปลง เมื่อคุณมาที่นี่ คุณจะได้เห็นว่าสีของทะเลนั้นมีหลากหลายเฉดสีมาก และถ้าคุณไปเยี่ยมชม "Ashizuri Haidokan" (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใต้มหาสมุทรอาซุซุริ) คุณจะพบว่าสัตว์ทะเลต่างๆ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาเช็คอิน และเช็คเอาท์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้ใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติสักนิด เราจะได้ค้นพบอะไรใหม่ๆ มากมาย การไปตั้งแคมป์มันช่างเป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ ไม่ใช่เหรอ? ฉันหวังว่าการได้อ่านข้อความนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณได้มาสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามของจังหวัดโคจิอย่างแท้จริง CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • นักเดินทาง

    Noasobi Essey ตอนที่ 6 ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีขอบเขตจำกัดเลยสักนิด เขาเหมือนกับมีเสาอากาศที่รับสัญญาณได้รอบทิศทางตลอดเวลา และเมื่อใดก็ตามที่เขาสนใจอะไรสักอย่าง เขาจะมุ่งหน้าไปที่นั่นทันที ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขาล้วนน่าสนใจ และเขาก็ไม่เคยหยุดที่จะค้นหาอะไรใหม่ๆ ลองนึกภาพว่าเขาเจอลำธารใสๆ เขาจะนึกทันทีว่า ถ้าได้นอนหลับในถุงนอนข้างลำธารนั้นจะเป็นอย่างไรนะ มันจะเสียงดังรบกวนไหม? หรือจะรู้สึกดี? หรืออาจจะรู้สึกกลัวก็ได้? จากนั้นเขาจะพยายามหาทางไปสำรวจสถานที่นั้นให้ได้ เพื่อดูว่าวิวเป็นอย่างไร มีพืชพันธุ์อะไรบ้าง มีสัตว์หรือมีนกอะไรอาศัยอยู่บ้าง ถ้าเป็นอย่างที่เขาคาดหวัง เขาก็จะเก็บข้อมูลนั้นไว้ในสมอง แต่ถ้าไม่เป็นอย่างที่คิด เขาก็จะเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น ด้วยความที่เขาชอบสำรวจ เขาจึงจำเส้นทางและสถานที่ต่างๆ ได้แม่นยำราวกับมีแผนที่อยู่ในหัว เขากำลังค่อยๆ สร้างแผนที่โลกของตัวเองขึ้นมาทีละน้อย เขาคือผู้ท่องเที่ยวที่เดินตามเส้นทางของตัวเองอย่างมั่นคง และในวันนี้ เขากำลังยืนอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ไม่คุ้นเคย กำลังตั้งใจฟังเสียงของธรรมชาติอย่างตั้งใจ บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในแคตตาล็อกไลฟ์สไตล์กลางแจ้งของ Snow Peak ในปี 2004 และนำกลับมาตีพิมพ์ใหม่อีกครั้งในปี 2009 CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • เบื้องหลังการพัฒนา "Hexa Evo Pro." จาก Snow Peak

    บทนำ ในช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อการไปแคมป์ปิ้งหมายถึงการไปเผชิญกับความไม่สะดวกสบาย Snow Peak จึงได้นำเสนอแนวคิดใหม่ในการไปแคมป์ปิ้งที่สามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายท่ามกลางธรรมชาติ และแชร์เวลาที่มีค่ากับครอบครัวและเพื่อนๆ บริษัทได้เสนอแนวคิดใหม่ที่ว่า ผู้ตั้งแคมป์ควรจะเป็นคนที่ออกแบบ และจัดระเบียบพื้นที่แคมป์ให้สะดวกสบายเอง และเริ่มพัฒนาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการตั้งแคมป์ เช่น "เตาผิง" และ "สมอบกตีขึ้นรูป" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เกิดจากแนวคิดของแคมป์เปอร์เอง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้กลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมการตั้งแคมป์ในญี่ปุ่น และกลายเป็นมาตรฐานที่คนใช้กันทั่วไป แล้วผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? ครั้งนี้เราจะมาเปิดเผยเรื่องราวเบื้องหลังการพัฒนา "Hexa Evo Pro." ทาร์ปที่มีความทนทานต่อแรงลมและการออกแบบที่สวยงาม ซึ่งช่วยสร้างร่มเงากว้าง และป้องกันแสงแดดได้อย่างยอดเยี่ยม Hexa Evo Pro คืออะไร? ในสภาพอากาศของญี่ปุ่นที่ฝนตกหนัก และมีน้ำค้างในตอนกลางคืน การมีทาร์ปจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หากฝนตกและต้องวิ่งเข้าเต็นท์ ก็จะรู้สึกอึดอัดภายในเต็นท์ เพราะพื้นที่จำกัด และการทำอาหารก็จะเจอปัญหาเรื่องการระบายอากาศ ทำให้การทำอาหารจำกัด และไม่สามารถสัมผัสความสะดวกสบายได้อย่างเต็มที่ ทาร์ปจึงเป็นตัวช่วยที่ดีในสถานการณ์เหล่านี้ ในช่วงหน้าร้อน ทาร์ปจะช่วยบังแสงแดดและสร้างร่มเงา ในฤดูหนาวการกางทาร์ปเหนือเต็นท์จะช่วยลดความเย็นและป้องกันน้ำค้างตอนกลางคืนได้ ทาร์ปช่วยทำให้การตั้งแคมป์ในทุกสภาพอากาศกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทาร์ปที่ Snow Peak ผลิต มี 2 แบบหลักๆ แบบแรกคือแบบหกเหลี่ยม (Hexa หรือ Leaf Wing) ซึ่งมีเส้นโค้งสวยงามที่เข้ากับธรรมชาติ และ มีความสามารถในการต้านทานลมได้ดี ส่วนอีกแบบคือสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Recta หรือ Flagship) ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เหมาะสำหรับกลุ่มใหญ่ ทาร์ปแบบหกเหลี่ยม มีดีไซน์ที่สวยงามและทนทานต่อลม แต่ถ้าต้องการพื้นที่ร่มเงาที่กว้างขวางสำหรับทำกิจกรรมกลุ่ม ทาร์ปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน การเลือกซื้อทาร์ปจึงเป็นเรื่องยาก เนื่องจากแต่ละแบบมีข้อดีที่แตกต่างกัน แต่ตอนนี้ Snow Peak ได้ออกแบบทาร์ปที่ผสมผสานข้อดีของทั้งสองแบบเข้าไว้ด้วยกัน นั่นก็คือ "Hexa Evo Pro." เราจะมาเจาะลึกเรื่องราวเบื้องหลังการสร้างสรรค์ "Hexa Evo Pro." ที่เปี่ยมไปด้วยความทุ่มเท และความหลงใหล สามารถให้พื้นที่กว้างขวางเพียงพอแม้จะเป็นกลุ่มคนจำนวนมาก การเริ่มต้นของความท้าทายใหม่ของนักพัฒนา การทำให้รูปทรงของ Hexa Evo Pro. กลายเป็นจริง นั้น มีความซับซ้อนและท้าทายในการผลิตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนการตัดเย็บ เนื่องจากรูปทรงของมันต้องการ การกระจายแรงตึงที่ซับซ้อน ทาร์ปแบบ Hexa (Leaf Wing) มีรูปทรงโค้งที่ค่อนข้างเรียบง่าย การควบคุมแรงตึงจึงทำได้ง่าย ทำให้เกิดรอยยับน้อย แต่ Hexa Evo Pro. มีรูปทรงที่ซับซ้อนกว่า ต้องดึงผ้าในสามทิศทางจากด้านเดียว ทำให้การควบคุมรอยยับเป็นเรื่องยาก เนื้อผ้ามีการทอในแนวตั้ง และแนวนอนสลับกัน ซึ่งเมื่อดึงในทิศทางตรงๆ ผ้าจะมีความแข็งแรง แต่ถ้าดึงในทิศทางเฉียง ผ้าจะยืดออกและทำให้เนื้อผ้าอ่อนแอลง สำหรับ Hexa Evo Pro. จะมีแรงดึงทั้งในแนวตรง และในแนวเฉียง ซึ่งการดึงผ้าในทิศทางเฉียงทำให้ผ้าตึงเกินไป ส่งผลให้ความแข็งแรงและความทนทานไม่เป็นที่น่าพอใจ วิธีการเย็บของ Hexa และ Recta ที่ใช้ในอดีตไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ จึงต้องการวิธีแก้ปัญหาทางใหม่ในการพัฒนา Wing Tarp ที่เปิดตัวในปี 1988 คำตอบที่ค้นพบ: เคล็ดลับจาก Wing Tarp ในขณะที่พัฒนาวิธีการเย็บผ้าและเผชิญกับความยากลำบาก นักพัฒนากลับไปทบทวนแนวคิดเดิมและนึกถึงโครงสร้างของ Wing Tarp ซึ่งเป็นโมเดลที่ Snow Peak เปิดตัวในปี 1988 ทาร์ปแบบ Wing Tarp มีข้อเสียคือพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างน้อยจากรูปทรงของมัน แต่ด้วยการดึงแรงจากทั้งสองข้างของสามเหลี่ยมที่แยกออกมา ทำให้แรงดึงถูกกระจายไปที่จุดยอดของทาร์ป สร้างเส้นที่สวยงามและทำให้ผ้ามีความแข็งแรงอย่างมาก นักพัฒนาคิดว่า "จะสามารถใช้แรงดึงในลักษณะเดียวกับ Wing Tarp ได้หรือไม่?" เมื่อเขาหันมามอง Hexa Evo Pro. เขาก็เห็นเส้นเย็บที่เหมือนกับโครงสร้างของ Wing Tarp อย่างไม่ตั้งใจ ถ้าเป็นแบบนี้ เราอาจจะกำจัดรอยยับได้! นักพัฒนาเริ่มทดลองโดยการตัดแผ่นผ้าสามเหลี่ยม ออกเป็นส่วนๆ โดยแยกส่วนสามเหลี่ยมใหญ่ตรงกลางออกจากส่วนสามเหลี่ยมเล็กสองข้าง หมุนส่วนสามเหลี่ยมเล็กทั้งสองข้าง เพื่อให้เส้นแนวตั้งของผ้าตรงกับแนวของเชือกที่ใช้ดึง เพื่อกระจายแรงตึงให้สม่ำเสมอ เมื่อเขาทำตัวอย่างออกมาผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาดไว้ Hexa Evo Pro. ทาร์ปที่เชื่อมต่อกับเชลเตอร์ และธรรมชาติ Hexa Evo Pro. มีเส้นโค้งที่สวยงาม และทนทานต่อแรงลม ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างร่มเงากว้างขวางได้ และสามารถจัดวางพื้นที่นั่งเล่นสำหรับ 4-6 คน รวมถึงจัดวางครัวได้ เมื่อเปิดตัว Hexa Evo Pro. เป็นส่วนหนึ่งของ Pro. Line สุดพิเศษจาก Snow Peak มันก็กลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ในเวลาไม่นาน Hexa Evo Pro. สามารถผสมผสานความสวยงาม และพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง พร้อมทั้งเชื่อมโยงได้กับเชลเตอร์และเต็นท์ จึงถือเป็นทาร์ปรุ่นใหม่ที่รวมข้อดีของทั้ง Hexa และ Recta ไว้ด้วยกัน บทส่งท้าย "เมื่อความไม่สะดวกกลายเป็นความสุข และสร้างสรรค์มาตรฐานใหม่ให้กับการตั้งแคมป์" ประโยคนี้สื่อถึงความสำเร็จของ Snow Peak ในการสร้างวัฒนธรรมการตั้งแคมป์ในญี่ปุ่น และการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยคิดว่า "ไม่สะดวก" ให้กลายเป็น "ความสะดวกสบาย" ซึ่งเกิดจากความตั้งใจที่จะสร้างช่วงเวลาที่ดีระหว่าง ธรรมชาติ และ ผู้คน HEXA EVO PRO. HEXA EVO PRO. IVORY [TP-250R] [TP-260IV] CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • บันทึกความหลงใหล ฉบับที่ 21

    [คอลัมน์] จาก ทีมงาน สํานักงานใหญ่ Snow Peak FIELD SUITE SPA Keitaro Yuda/เคอิทาโร่ ยูดะ 【ประสบการณ์การใช้】5 ปี Field Oven (เตาอบ) ตอนที่อาศัยอยู่ที่โตเกียว วันหนึ่งในช่วงวันหยุด ฉันคุยเล่นๆ กับภรรยาว่าเราจะทานอะไรเป็นมื้อกลางวัน จู่ๆ ก็มีความคิดขึ้นมาว่า 'ทำไมไม่ลองไปซื้ออุปกรณ์และลองทำบาร์บีคิวกันดูล่ะ' นั่นคือจุดเริ่มต้นของชีวิตการแคมป์และการใช้ชีวิตกลางแจ้งของผม จากนั้น ฉันก็เริ่มสนุกกับการทำบาร์บีคิวทุกสัปดาห์เลย หลังจากที่ได้รู้ ว่าอาหารอร่อยแค่ไหนเมื่อรับประทานข้างนอกและสนุกกับการเล่นไฟ ช่วงเวลาวันหยุดของฉันก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ฉันเริ่มหลงใหลกับอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง และอยากลองใช้อะไรบางอย่างที่เจ๋งๆ แล้วก็ได้พบกับ Field Oven (เตาอบ) มันคือไอเท็มที่นําฉันไปสู่โลกของการแคมป์ปิ้งอย่างเต็มตัว มันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับ 'การทำพิซซ่า' โดยเฉพาะและทำหน้าที่ได้ดีมาก แน่นอนว่าเราสามารถทำอาหารอย่างพวก gratin หรือเมนูอื่น ๆ ได้ด้วย แต่ที่บ้านของเราทำแค่พิซซ่าเท่านั้น เสน่ห์ของมันคือ อย่างแรกเลย มันดูเท่มาก แค่ได้มองมันก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและมีความรู้สึกพิเศษ และนี่แหละ เป็นการเพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับกิจกรรมกลางแจ้งจริงๆ คุณสามารถทำสิ่งต่างๆ นอกบ้านที่คุณไม่สามารถทำได้ที่บ้าน เช่น การทำพิซซ่าด้วยไม้ฟืน วางไว้บน เตาผิงแล้วอบพิซซ่าจนเสร็จ พอเห็นแป้งพิซซ่าพองตัวขึ้นมา ลูก ๆ ก็สนุกกันใหญ่ นี่คือเสน่ห์ของ การรับประทานอาหารนอกบ้าน การคิดท็อปปิ้งต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งความสนุก เรามักจะใช้ผักที่เก็บจากสวนใกล้แคมป์หรือเลือกวัตถุดิบจากซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นมาทำพิซซ่า บางครั้งฉันก็ทำแป้งเองแล้วเอามาด้วย หรือบางครั้งก็ใช้พิซซ่าแช่แข็งที่สะดวกกว่า ช่วงนั้น ภรรยาของฉันก็เริ่มหลงใหลและสนุกกับการทำอาหารแคมป์และลองทำเมนูต่าง ๆ แต่ไม่ว่าจะทำอาหารอะไร ทุกครั้งจะต้องมีพิซซ่าหนึ่งถาดเสมอ นั่นกลายเป็นเมนูประจำของครอบครัวเราไปแล้ว ตั้งแต่ซื้อมาเกือบ 5 ปี ใช้ไปหลายสิบครั้งแล้ว แม้จะใช้บ่อยแล้ว ก็ไม่มีคราบแม้แต่น้อย เพราะหลังจากใช้ทุกครั้ง ฉันจะขัดมันให้เงางามด้วยแปรงทองเหลือง สำหรับฉันแล้ว การทำความสะอาดนี้เป็นเวลาที่สนุก และเพราะมันเป็นอุปกรณ์ที่รักและอยากดูแลอย่างดี ฉันจึงไม่เคยละเลยการบำรุงรักษา จากที่ย้ายจากโตเกียวมาอยู่ที่นีงาตะกับครอบครัวมาได้ปีครึ่ง ตอนนี้มีลานกางเต็นท์อยู่หน้าที่ทำงานของฉันพอดี อาจเพราะตอนนี้เราอาศัยอยู่ในสถานที่ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เราจึงไม่อยากออกไปข้างนอก (หัวเราะ) เลยไม่ได้ไปตั้งแคมป์กับครอบครัวมาสักพักแล้ว แต่ดูเหมือนว่าลูก ๆ และภรรยาของฉันก็บอกว่าเริ่มอยากไปแคมป์กันอีกครั้งแล้ว ครั้งหน้าเราคงจะเอา Field Oven (เตาอบ) ไปด้วย แล้วอบพิซซ่าพร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนานกับครอบครัว บทส่งท้าย เป็นอย่างไรบ้าง? เวลาที่คุณใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่ใช้อยู่มานานนั้น เป็น สิ่งที่คุณไม่อาจเรียกคืนมาได้ ไม่ว่าคุณจะซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยอดเยี่ยมเพียงใดก็ตาม ไม่ใช่แค่เพราะคุณภาพของมัน แต่เป็นประสบการณ์และเวลาที่เราใช้ร่วมกันเวลานั้นเอง เป็นสิ่งที่เรามักจะเรียกว่า 'ความผูกพัน' บริการหลังการขายในนีงาตะและฟุกุโอกะ ทุกวันนี้ก็ยังมีอุปกรณ์ที่ต้องการการซ่อมจากที่ไกล ๆ ส่งมาอยู่เสมอ เมื่ออุปกรณ์เสียหาย เราไม่อยากให้คุณทิ้งมันไป แต่ต้องการให้คุณซ่อมมันแล้วใช้ต่อไป ด้วยความตั้งใจและความรักในอุปกรณ์นั้น เราจึงจะซ่อมมันอย่างตั้งใจและส่งกลับให้คุณใช้ต่อไป หากอุปกรณ์ของคุณเสียหาย ก็สามารถส่งมาที่ Snow Peak ได้ทุกเมื่อ เราจะซ่อมมันด้วยความตั้งใจและส่งกลับให้คุณอย่างดีที่สุด "ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวถึงในบทความนี้" Field Oven CS-390 CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • เรียนรู้จากความผิดพลาด และเพลิดเพลินกับการตั้งแคมป์อย่างปลอดภัย

    【คอลัมน์】จากทีมงาน Snow Peak Store Alpen Outdoors Kasugai Yusuke Masuda/ยูสุเกะ มาซูดะ ตอนที่ได้ยินว่าจะมีคนมาขอให้เขียนคอลัมน์เรื่อง “เรื่องราวความล้มเหลวที่น่าจดจำ” ก็คิดกับตัวเองว่า “ฉันนี่แหละคือคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรื่องนี้!” (หัวเราะ) ฉันไม่ภูมิใจกับมัน ฉันเคยทำผิดพลาดมาหลายครั้งเลย ฉันเป็นคนที่มักจะทำอะไรพลาดๆ นิดหน่อย โดยเฉพาะความผิดพลาด คือ เต็นท์ถูกพัดหายไปเนื่องจากลมแรง เมื่อคุณอยู่กลางแจ้ง สภาพอากาศอาจเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน และลมก็อาจแรงขึ้น ดังนั้นฉันหวังว่าทุกคนจะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของฉัน (หัวเราะ) และหาวิธีป้องกันให้ดีขึ้น ลมแรงพัดเต็นท์ปลิวหายไปจนขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย... ช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ฉันได้เข้าร่วม Snow Peak ฉันกำลังฝึกกางเต็นท์คนเดียวในบริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติมิโนะในวันหยุด เพื่อพยายามให้ทันกับพี่ๆจากคันไซ ซึ่งเป็นคนที่มีบุคลิกแข็งแกร่งมาก (หัวเราะ) เต็นท์ที่ฉันตั้งเป็นรุ่น "Land Lock" ซึ่งเป็นเต็นท์ใหญ่ 2 ห้อง เมื่อฉันตั้งเต็นท์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเก็บของ! และทันที ฉันดึงหมุดทั้งหมดออก รวมถึงเชือก ลมแรงก็พัดมาอย่างทันที ทำให้เต็นท์ "Land Lock" ร่วงลงมาทับตัวฉันพอดี เต็นท์ "Land Lock" ที่ตั้งได้อย่างสวยงามไม่คิดเลยว่ามันจะปลิวมาทับตัวเองแบบนี้.. ตอนนั้นฉันไม่เคยตั้งเต็นท์ใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย และไม่เคยคิดว่ามันจะถูกลมพัดปลิวไปได้ขนาดนี้ ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นพี่ๆ ทีมงานที่มาดูสถานการณ์ก็ช่วยฉันออกมาได้ แต่ในที่สุดผ้าเต็นท์ของ Land Lock ก็ขาดไป จนต้องส่งไปซ่อม (แน่นอนว่า ฉันต้องขอโทษอย่างจริงใจ) นอกจากนี้ตอนปลายปีที่ได้เข้าร่วมงานกับบริษัท ตอนที่เรารวมตัวกันที่สำนักงานใหญ่เพื่อประชุมประจำปี พนักงานหลายคนจากพื้นที่คันไซสักกลุ่มหนึ่งคิดจะไปแคมป์กลางหิมะกัน เลยตั้งเต็นท์ "Land Lock" แล้วใช้หิมะยึดเสาไว้ พอเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำกัน พออาบน้ำเสร็จและคิดจะไปนั่งดื่มเบียร์ชิลๆ กันก็มีโทรศัพท์เข้ามาจากห้องแต่งตัว ฉันรับสายทั้งๆ ที่ยังเปลือยกายอยู่ พอรับไปก็ได้ยินว่า "เต็นท์ของคุณถูกพัดหายไป มันพังหมดแล้ว" ตอนนั้นถึงแม้อาบน้ำแล้วตัวอุ่น แต่ฉันยังรู้สึกเหงื่อเย็นไหลลงมา แคมป์กลางหิมะที่สนามแคมป์สำนักงานใหญ่ หลังจากนั้นหิมะจะละลายไป ฉันไม่รู้หรอกครับว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น… เมื่อกลับมาถึง เต็นท์ที่ตั้งไว้ท่ามกลางหิมะ กลับพบว่า หิมะเปลี่ยนเป็นฝนและละลายไปหมดแล้ว และยังถูกลมแรงพัดจนเต็นท์ Land Lock ยุบลงจนแบนราบ ตอนนั้นแผนที่จะนั่งดื่มเบียร์ และทานกับแกล้มในคืนที่สนุกสนานหายไปทันที ต้องมานั่งเก็บเต็นท์และถุงนอนที่เปียกน้ำฝนในอากาศหนาวเย็นแทน หลังจากนั้น ฉันก็นั่งกินมาม่าร้อนๆ ในขณะที่ตัวสั่นจากความหนาว จนตอนนี้มันกลายเป็นความทรงจำที่ดีไปแล้ว (จริงๆ แล้วมีหลายอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้น แต่ไม่ขอเล่าที่นี่ ถ้ามีโอกาสก็จะเล่าให้ฟังนะ) เรียนรู้จากความผิดพลาด : ความสำคัญของการยึดสมอ ความผิดพลาดหลายครั้งเนื่องจากลมแรงยังคงตามหลอกหลอนฉันอยู่ จนทำให้กลายเป็นความกลัวทุกครั้งที่ต้องตั้งเต็นท์หรือเก็บเต็นท์หลังใช้งาน โดยเฉพาะตอนที่ต้องตากเต็นท์ให้แห้ง ฉันจึงต้องยึด สมอ ทุกครั้งเพื่อความมั่นคง ที่แคมป์ไซต์ก็มีอยู่บ่อยครั้งที่เห็นเต็นท์ที่ไม่ได้ยึดสมอ ฉันคิดว่า ถ้าในอนาคตแคมป์ที่มีคนมาเยอะๆ ถ้าเต็นท์ปลิวไป ก็อาจจะเป็นการรบกวนคนอื่นได้ การยึดเชือกและตอกสมอลงไป ไม่ได้มีแค่เพื่อไม่ให้เต็นท์ปลิวไปเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้โครงเต็นท์โดนลมหรือถูกพัดจนโค้งงอหรือหักได้อีกด้วย มันเป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าอากาศจะดีแค่ไหน ก็อย่าลืมยึด สมอ ให้มั่นคงทุกครั้ง! จริงๆ แล้ว สมอ มีหลายประเภท และตามสภาพพื้นดิน บางครั้งเราก็ต้องเปลี่ยนประเภทของสมอด้วย แต่สิ่งที่หลายๆ คนเจอปัญหาบ่อยในแคมป์คือ พื้นดินแข็งจนไม่สามารถตอกสมอลงไปได้เลย ซึ่งหลายคนก็อยากตั้งเต็นท์ให้เสร็จไว ในกรณีแบบนี้ สมอที่แข็งแกร่งที่สุด อย่าง "Solid Stake" และ ค้อน "Peg Hammer Pro." จะช่วยคุณได้เยอะเลย เพราะมันสามารถยึดมั่น และตอกลงไปได้รวดเร็วแม้พื้นจะแข็งมากก็ตาม Solid Stake ของ Snow Peak มีขนาดตั้งแต่ 20cm ถึง 50cm ให้เลือก 4 ขนาด แต่ถ้าเลือกสำหรับเชือก แนะนำให้เลือกขนาด 30cm เป็นขนาดมาตรฐาน ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกขนาดไหน สามารถมาปรึกษาได้เลย นอกจากนี้! อย่าลืมตอกสมอให้มั่นคงนะ ถ้าตอกไม่ลึกหรือไม่แน่นพอ มันอาจหลุดออกมาได้ หรือสมออาจหมุนและทำให้เชือกหลุดออกจากสมอได้ แล้วอีกอย่าง! ค้อนก็สำคัญมากนะ ถ้าสมอดี แต่ค้อนไม่ดีแรงก็จะไม่ส่งผลดี ทำให้ตอกยากหรือถ้าสมอลงไปแล้วก็อาจดึงออกยาก ดังนั้นถ้าคุณซื้อ Solid Stake ไปแล้ว อย่าลืมซื้อ "Peg Hammer Pro." มาเป็นคู่ด้วยนะ (หัวเราะ) เพราะค้อนนี้ก็เป็นของที่แข็งแกร่งสุดๆ เหมือนกัน มันจะเป็นเพื่อนคู่ใจที่ยอดเยี่ยมในการตั้งแคมป์ของคุณแน่นอน! จากนี้ไปพวกเราก็คงแคมป์อีกเยอะ และอาจจะพลาดหลายอย่างเหมือนเดิม แต่ฉันเชื่อว่าความผิดพลาดเหล่านี้แหละ คือประสบการณ์ที่จะช่วยให้ทุกคนได้แคมป์อย่างปลอดภัย และเพราะเราผ่านมันมาเอง จึงมีหลายอย่างที่สามารถแบ่งปันและสอนให้กับทุกคนได้ ถ้ามีเรื่องที่เกี่ยวกับแคมป์ที่กังวลหรือสงสัย อย่าลืมมาปรึกษาพนักงานที่ร้านนะ เราพร้อมที่จะให้คำ แนะนำพร้อมกับแชร์เรื่องราวความผิดพลาดที่เต็มไปด้วยทั้งน้ำตา และเสียงหัวเราะ (หัวเราะ) ยินดีที่จะช่วยแนะนำและให้คำปรึกษาเต็มที่ Solid Stake 20 cm Solid Stake 30 Solid Stake 40 Solid Stake 50 Peg Hammer Pro.C Peg Hammer Pro.S CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • Koropokkuru [คนแคระในตำนาน]

    noasobi essey ตอนที่ 5 เรื่องเล่าของ Koropokkuru ตอนที่ฉันเข้าโรงเรียนอนุบาล แม่เคยเล่าเรื่องของ Koropokkuru (โคโรโปคุรุ) ให้ฟัง Koropokkuru เป็นคนแคระในตำนานของชาวไอนุ ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองของเกาะฮอกไกโด คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในป่าลึก แม่บอกว่า เวลาที่ชาวบ้านไปเก็บพืชป่า เช่น ฟูกิ (ผักชนิดหนึ่ง) พวกเขาจะต้องนำเกลือ หรือลูกอมใส่ภาชนะแล้วไปวางไว้ในที่ที่ฝนไม่ตก เพื่อเป็นการขอบคุณ Koropokkuru ที่ดูแลป่า หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน พวกเขาก็จะกลับไปเอาภาชนะนั้น แล้วมักจะพบว่ามีของขวัญจาก Koropokkuru อยู่ข้างใน เช่น หินสวยงามหรือฟอสซิล แม่เคยให้ ฟอสซิลหอยโบราณ ที่เธอได้รับมาจาก Koropokkuru แก่ฉันด้วย ตอนนี้ฉันยังเก็บฟอสซิลอันนั้นไว้บนโต๊ะทำงานอยู่เลย ตีพิมพ์ในแคตตาล็อก Snow Peak Outdoor Lifestyle ปี 2008 คอลัมน์นี้เป็นการนำบทความที่เคยตีพิมพ์ในแคตตาล็อก Snow Peak Outdoor Lifestyle ตั้งแต่ปี 2004 กลับมาตีพิมพ์ใหม่อีกครั้ง Backpacker's Cup Ti-Double Wall H300 Stacking Mug CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • แคมป์ปิ้งกับครอบครัว

    ตั้งแคมป์กับครอบครัว พักผ่อน และสนุกกับการทำกิจกรรมร่วมกัน ในบรรยากาศธรรมชาติ 2 วัน 1 คืน การตั้งเต็นท์ ทำอาหาร หรือทำกิจกรรมอะไรก็ตามในแคมป์ปิ้ง ล้วนเป็นการแบ่งปันงานกันทำตามธรรมชาติ ทุกคนนำสิ่งที่ตัวเองทำได้มาช่วยกัน ทำให้เวลาที่ใช้ร่วมกันมีความหมายมากขึ้น การได้ใช้เวลาร่วมกันแบบนี้ที่แตกต่างจากชีวิตประจำวัน ทำให้ความผูกพันในครอบครัวแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น Setting up การตั้งเต็นท์ และทาร์ปก็เป็นกิจกรรมง่ายๆ ที่ทำร่วมกับเด็กๆ ได้ทั้งครอบครัว เมื่อทุกคนช่วยกันตั้ง จะยิ่งเพิ่มความสุขเข้าไปอีก การเลือกซื้อรุ่นสำหรับผู้เริ่มต้นจะช่วยให้การตั้งง่ายขึ้น เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยลอง Entry Pack TT SET Amenity Dome M Entry 2 Room Elfield โครงของเต็นท์มีการแบ่งสี ทำให้ประกอบได้ง่าย ทาร์ปนั้นสำคัญมาก เพราะมันช่วยบังแดดและป้องกันฝนลมได้ การดูวิดีโอสอนตั้งเต็นท์ หรือเข้าร่วม เข้าร่วมการฝึกอบรมล่วงหน้า เป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยให้การตั้งแคมป์ของคุณสนุกสนานมากขึ้น Dinner time ช่วงเวลาที่รอคอยที่สุดในการตั้งแคมป์ก็คือตอนที่หิวท้อง การได้ทานอาหารกลางแจ้งมันอร่อยเป็นพิเศษ ยิ่งได้ทำอาหารร่วมกันกับครอบครัวด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีก การได้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "อร่อยจัง" ร่วมกับคนในครอบครัว เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่เลย Entry IGT FD Low Chair Low Beach Chair Brown Cot High Tension Grill Burner Seppou-en BBQ Tong “Pitz” Chopping Board Tableware Set L Set L Family Takibi การนั่งล้อมกองไฟ จะช่วยให้ทุกคนได้พูดคุยกันมากขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ช่วงเวลาที่ได้นั่งล้อมกองไฟนั้นสำคัญมากสำหรับเด็กๆ เพราะเป็นโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับไฟ และสำหรับผู้ใหญ่แล้ว การได้นั่งล้อมกองไฟก็เป็นเหมือนการพักผ่อนจากชีวิตที่วุ่นวาย Fireplace L Starterset Fireplace M Starterset Fireplace Base Plate Fire Tool Set Pro Fire Tongs Bonfire Tool Pole Stand L/M Sleeping การนอนเรียงกันเป็นแถวบนพื้นดินในระหว่างการตั้งแคมป์ก็เป็นประสบการณ์พิเศษอย่างหนึ่งเช่นกัน ที่นอนของ Snow Peak นั้นดีตรงที่สามารถแยกส่วนระหว่างผ้าห่ม และที่นอนได้ เหมือนกับที่นอนที่ใช้ในบ้านเลย นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อที่นอนเข้าด้วยกันได้ ทำให้กลายเป็นที่นอนขนาดใหญ่ได้อีกด้วย SS Single Entry Pack SS Separate Sleeping Bag Separate Sleeping Bag Ofuton Wide Ofuton Wide LX Breakfast เช้าวันแคมป์ปิ้ง ตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงอาทิตย์ยามเช้า และเสียงนกร้อง ทำให้รู้สึกสดชื่น เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเตรียมอาหารเช้า และรับประทานอาหารร่วมกันกับครอบครัว ทำให้รู้สึกมีพลัง และสดชื่นมากกว่าทุกวัน Tramezzino Field Barista Coffee Grinder Field Barista Kettle Field Barista Coffee Drip Apparel ชุดเสื้อผ้ากันยุง 'Insect Shield' นั้นใส่สบาย และสามารถป้องกันยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับใส่ไปตั้งแคมป์ หรือจะใส่ในเมืองก็ได้ เป็นไอเท็มที่น่าสนใจสำหรับช่วงนี้เลยทีเดียว ถ้าได้ใส่ชุดคู่กันทั้งครอบครัว รับรองว่าการไปแคมป์ปิ้งจะสนุกสนานมากยิ่งขึ้น Kids Print Insect Kids Print Insect Insect Shield Hoodie Insect Shield Hoodie Shield Hoodie Shield Hoodie Kids dawata Kids Giga Power Stove Entry Camping Toteline Hitch T-shirt T-shirt T-shirt T-shirt ช่วยกันเก็บของหลังจากตั้งแคมป์เสร็จสิ้น แล้วค่อยมาถามกันว่าครั้งหน้าจะไปตั้งแคมป์กันเมื่อไหร่ ถ้ามีคำถามแบบนี้แสดงว่าการตั้งแคมป์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากเลยล่ะ CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • มุมมองชีวิตที่ได้เรียนรู้จากการเล่นเซิร์ฟ

    ค้นหาตัวเองไปพร้อมกับการเล่นโต้คลื่น มุมมองชีวิตที่ได้เรียนรู้จากการเล่นเซิร์ฟ Snow Peak WITH HARAJUKU Shinichiro Otabe/ชินอิจิโร่ โอตะเบะ "ฉันชอบเล่นเซิร์ฟเป็นงานอดิเรกมาก" ถึงขนาดว่าวันไหนไม่ได้ไปทะเลก็ยังต้องเข้าไปเช็คสภาพคลื่นอยู่ตลอดเลย ฉันอินกับการเล่นเซิร์ฟมากจริงๆ การเล่นเซิร์ฟมันไม่ใช่แค่ไปที่ทะเลอย่างเดียวนะ ก่อนจะไปทะเลแต่ละครั้ง ฉันต้องหาข้อมูลก่อน เช่น ลมพัดมาทางไหน คลื่นจะมาทางไหน น้ำขึ้นน้ำลงเป็นยังไง หรือว่าที่จุดไหนคนจะเยอะ อะไรแบบนี้ แล้วก็ต้องมานั่งวิเคราะห์ดูว่าจุดไหนจะเล่นเซิร์ฟได้สนุกที่สุด การได้ทำแบบนี้ก็เป็นอะไรที่สนุกไปอีกแบบหนึ่งนะ ก่อนจะไปทะเลทีไร ฉันก็จะนั่งคิดวนไปวนมาแบบนี้แหละ แม้ว่าบางทีที่เราคาดการณ์ไว้มันอาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริงก็ตาม แต่ถ้าวันไหนเราไปเจอคลื่นดีๆ อย่างที่เราคาดหวังไว้ มันก็จะรู้สึกตื่นเต้นมากจนขนลุกเลยล่ะ เราต้องยอมรับและอยู่ร่วมกับธรรมชาติ การทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกอย่างจะต้องเคารพธรรมชาติ การเล่นเซิร์ฟก็เช่นกัน เราไม่สามารถไปฝืนธรรมชาติได้เลย สมัยก่อน ฉันเคยไปเที่ยวที่อิซุกับเพื่อนที่ชอบเล่นเซิร์ฟ แล้วได้เจอคุณลุงคนหนึ่งที่ดูเป็นคนอิสระมากเลย คุณลุงขับรถตู้ที่ดัดแปลงมาเอง แล้วก็มีกระดานเซิร์ฟยาวๆ ติดรถมาตั้ง 5-6 แผ่น ดูเหมือนกับคนในนิตยสารเลย พอได้คุยกันถึงรู้ว่าคุณลุงแกเดินทางไปเล่นเซิร์ฟตามชายหาดต่างๆ ทั่วประเทศมาหลายปีแล้ว แกมีประสบการณ์เล่นเซิร์ฟมานานกว่า 30 ปีเลยทีเดียว ถือว่าเป็นรุ่นพี่ในวงการเซิร์ฟเลยก็ว่าได้ คำพูดของคุณลุงที่ฉันจำได้แม่นเลยคือ 'ไม่ว่าคลื่นจะเป็นยังไง ก็ต้องสนุกไปกับมันให้ได้นะ!' ตอนแรกฉันค่อนข้างแปลกใจ เพราะปกติคนที่เล่นเซิร์ฟมานานๆ มักจะค่อนข้างซีเรียสกับสภาพคลื่น เช่น บอกว่าวันนี้คลื่นไม่ดีเลย หรือคลื่นเล็กไป หรือว่าคลื่นแตกไม่สวย อะไรแบบนี้ แต่คุณลุงกลับมองโลกในแง่ดีมาก ฉันรู้สึกว่าได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญจากคุณลุงเลย นั่นคือ การเล่นกับธรรมชาติก็เหมือนกับการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ เราต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจแและยอมรับในจังหวะของธรรมชาติ คลื่นมาถึงทุกคนอย่างเท่าเทียม ถ้าจะพูดให้เกินจริงหน่อยก็คือ ฉันรู้สึกว่าการเล่นเซิร์ฟมันมีความเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณมากกว่ากีฬาชนิดอื่นๆ เวลาที่รอคลื่นอยู่บนกระดาน มันจะมีช่วงหนึ่งที่สีของฟ้า และสีของทะเลมันผสมกลมกลืนกันจนรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาตินั้นไปเลย การเล่นเซิร์ฟมันเหมือนกับชีวิตเลย มีช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่แย่ บางทีเราอาจจะยอมให้คนอื่นได้ขี่คลื่นที่ดีๆ แล้วพอถึงตาเราเองกลับทำพลาดไปซะงั้น แต่ทุกครั้งที่เราสามารถเอาชนะอุปสรรคได้ มันก็จะรู้สึกภูมิใจ และพร้อมที่จะไปสู่ความท้าทายใหม่ๆ เหมือนกับชีวิตที่เราต้องค้นหาจุดสมดุลระหว่างความสามารถของตัวเองกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ฉันว่าการเล่นเซิร์ฟสอนให้เรารู้ว่า การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นมันไม่สำคัญเลย สิ่งที่สำคัญคือการค้นหาที่ของตัวเอง และคนที่เข้าใจเรา เวลาที่รู้สึกสับสนหรือไม่แน่ใจในตัวเอง ฉันมักจะไปเล่นเซิร์ฟครับ การได้สัมผัสกับธรรมชาติ ทำให้ฉันได้มองตัวเองอย่างรอบด้านมากขึ้น สัมผัสเสื้อผ้าในธรรมชาติ ฉันชอบเสื้อผ้าที่ใส่แล้วรู้สึกสนุก ในยุคที่อะไรๆ ก็ผลิตเยอะ ใช้แล้วทิ้งกันง่ายๆ แบบนี้ ฉันอยากได้เสื้อผ้าที่มีคุณค่ามากกว่าแค่ของใช้ทั่วไป เสื้อผ้าของ Snow Peak ไม่ได้แค่ขายเสื้อผ้าเฉยๆนะ แต่เขายังพยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และเสนอแนวคิดการใช้ชีวิตที่น่าสนใจด้วย เสื้อผ้าของ Snow Peak ส่วนใหญ่จะเหมาะกับการไปเที่ยวป่า แต่จริงๆ แล้วก็ใส่ไปเล่นน้ำทะเลได้สบายๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะชุดซีรีส์ Quick Dry นี่แหละ ใส่สบายมาก แห้งเร็ว ผ้านุ่มเย็น แล้วก็ไม่ยับง่ายด้วย เวลาเจอคลื่นสวยๆ ฉันก็ถอดเสื้อผ้าออกแล้วรีบไปใส่ชุดดำน้ำเลย ไม่ต้องมานั่งพับเสื้อผ้าอะไรให้ยุ่งยาก (หัวเราะ) เสื้อผ้าของ Snow Peak สามารถใส่ไปไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นป่า ทะเล หรือในเมือง ก็รู้สึกว่ามันมีคุณค่าเสมอ การมีเสื้อผ้าดีๆ ไว้ครอบครองเราต้องนำมันไปใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วย Quick Dry Soft Shirt Quick Dry Print Aloha Shirt Quick dry shorts CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

bottom of page